ผู้นำศาสนาต้องกล้าอธิบาย เพื่อนำชุมชนคุยกับรัฐ ส่วนศาสนาไม่ใช่จุดที่สร้างความหวาดระแวง


ละออ ย้ำจุดที่สร้างความหวาดระแวงไม่ใช่ศาสนา อีหม่ามยาการียา แจ้งผู้นำศาสนาต้องกล้าอธิบาย คอลีเยาะ เผยหลังร่วมสานเสวนาทำให้กล้าที่จะเป็นกระบอกเสียงให้ชุมชน


เมื่อช่วงเวลาหนึ่งทางเครือข่ายผู้หญิงภาคประชาสังคมเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ และองค์กรภาคี ได้ถ่ายทอดประสบการณ์เกี่ยวกับ “การจัดการสานเสวนาในระดับชุมชน” ที่มีผลในทางปฏิบัติจริง โดยเริ่มจากการเป็นผู้เข้าร่วมกระบวนการสานเสวนา สู่การเป็นนักกระบวนกร เป็นคนกลาง เพียงเพื่อให้กลุ่มคนทั้งสองฝั่งที่มีความหวาดระแวงต่อกันกลับมาพูดคุยและเข้าใจกันและกันได้


ละออ พรหมจินดา ตัวแทนผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ (ฅนไทยพุทธ) กล่าวว่า ความจริงเราไม่ได้มีปัญหาระหว่างกัน เราอยู่ด้วยความรัก แบ่งปันกันและกันมานาน เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวกับศาสนาตามที่ฅนนอกพื้นที่เข้าใจ แต่ไม่รู้ว่ามีจุดอะไรที่ทำให้เราหวาดระแวงระหว่างกันและกัน แต่หลังจากไปร่วมกิจกรรมสานเสวนาทำให้เราได้พูดในมุมของพลังจากกลุ่มเล็กๆ ให้ฅนกลุ่มใหญ่ได้รับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในชุมชนของเราได้


ยาการียา สะแปอิง ตัวแทนผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ (ฅนมลายูมุสลิม) กล่าวว่า หลังได้ร่วมสานเสวนาทำให้เกิดความมั่นใจที่จะนำชุมชนไปร่วมพูดคุยกับเจ้าหน้าที่รัฐมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ได้ฟังความคิดของเจ้าหน้าที่ด้วย


ในฐานะที่เราเป็นผู้นำศาสนา อะไรที่เกี่ยวกับศาสนาเราก็ต้องกล้าอธิบายให้เจ้าหน้าที่เข้าใจ มันคือการแลกเปลี่ยนระหว่างกันเพื่อนำไปปรับปรุงและปฏิบัติต่อกันในครั้งต่อไปให้ดีกว่าเดิม


ด้านคอลีเยาะ มะลี ตัวแทนผู้ได้รับผลกระทบจากคดีความมั่นคง กล่าวว่า หลังได้ร่วมกิจกรรมสานเสวนาทำให้ตนกล้าพูด กล้าต่อรอง กล้าแสดงออก กล้าตัดสินใจ และกล้าเป็นกระบอกเสียงให้ชุมชน


หมายเหตุ : งานชั้นนี้เผยแพร่ครั้งแรกในเว็บไซต์ประชาไท (Tue, 2017-03-28 22:58)


ลิงค์ต้นฉบับ : https://prachatai.com/journal/2017/03/70792