การเมืองสยาม ฉบับย่อ “จริงคือเท็จ เท็จคือจริง จริง ๆ เท็จ ๆ คือหลัการสู้รบ – โจโฉ”

[ โดย THEbor ก้าวธรรม ]
.

ใครที่ติดตามการเมือง หรือคนที่พึ่งเริ่มสนใจการเมืองชั่วโมงนี้ ย่อมจะเห็นภาพและเข้าใจวิถีการเมืองของสยามโดยง่าย การต่อสู้ของขั้วอำนาจทางการเมืองยังคงหมุนเวียนอยู่ในกงล้อเดิม ๆ
.

สำหรับฝ่ายที่ไม่มีโอกาสที่จะเติบโตได้เลย ในทางการเมืองสยาม คือ “ฝ่ายหัวก้าวหน้า” ซึ่งในอดีตสามารถอธิบายได้ว่า ต่อให้ฝ่ายหัวก้าวหน้าอย่างคณะราษฎร สามารถทำการปฏิวัติเปลี่ยนรูปแบบการปกครองประเทศได้ในปีพ.ศ. 2475 ขณะกำลังพยายามนำสยามมุ่งสู่ความเป็นศิวิไลซ์ใหม่ ตอนนั้นกระทั่งมีกระแสว่าทางฟากฝั่งของคณะราษฎรเองก็มีกลุ่มหัวก้าวหน้า(บางกลุ่ม) ถึงขั้นศึกษา วางแผน ตระเตรียม รูปแบบการปกครองในรูปแบบสาธารณรัฐไว้เสร็จสรรพ
.

อย่างไรก็ตามผลลัพธ์สุดท้าย คือแพ้ภัยให้กับคนใกล้ตัวที่เคยจับมือมินิฮาร์ทไปด้วยกัน เพราะเมื่อมันไม่สมประโยชน์ ก็เปลี่ยนขั้วไปซะงั้น ไปจับมือลับ ๆ กับฝ่ายอนุรักษนิยม จนเกิดยุทธการผลิตซ้ำวาทกรรม สร้างความเกลียดชัง เพื่อให้ฝ่ายหัวก้าวหน้าว่าเป็น “ผู้ร้าย” นำมาซึ่งเงื่อนไขในการรัฐประหารปีพ.ศ. 2490

.
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา การเมืองสยามก็ยังคงไว้ซึ่งความเป็นวิถีของสยาม จวบจนทุกวันนี้ ซึ่งบางช่วง บางเวลายังพอได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอยู่บ้าง เช่น ช่วงของการมีรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ปีพ.ศ. 2540 (หลายคนมองว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุด) แต่อะไรดี ๆ จะอยู่กับ “สยาม” ได้ไม่นาน ก็ถูกถูกฉีกทิ้งโดยฝ่ายเดิม ๆ ที่สืบทอดกันมา แม้แต่หมุดหมายความทรงจำทางประวัติศาสตร์ก็โดนกระทำการถูกสั่งให้ลบ แกะออก ทำลายทิ้ง
.

จนกระทั่ง การมาของ “พรรคอนาคตใหม่” ได้ปลุกอุดมการณ์ของ “คณะราษฎร” ขึ้นมาใหม่ เปลี่ยนโฉมการเมืองสยามอย่างไม่เคยมีมาก่อนนับจากอดีต การทำหน้าที่ฝ่ายค้านที่ทรงพลัง ทำให้พรรคอนาคตใหม่ เป็นที่สนใจแก่คนหนุ่มสาว คนรุ่นใหม่ และแน่นอน ย่อมไม่เป็นที่ถูกใจฝ่ายที่สนับสนุนอนุรักษนิยมอย่างแน่นอน
.

จากพรรคอนาคตใหม่ สู่พรรคก้าวไกล พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า พรรคนี้ คือพรรคอุดมการณ์คณะราษฎรเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ที่เพียบพร้อมในการเดินเกมการเมือง โดยมีเป้าหมายคือล้มเผด็จการ ด้วยการกระชากหน้ากากของพวกเขาออกมา แล้วให้ประชาชนลงโทษ
.

ผลการเลือกตั้ง 66 ที่ผ่านมายิ่งทำให้ฝ่ายอนุรักษนิยม และ อนุรักษนิยมก้าวหน้า ต้องกระอักน้ำลายอยู่บ้าง(หากไม่ใช่เลือด) เมื่อทราบผล บางรายถึงกับคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ โวยวาย อาละวาด บางรายถึงกับเละเทะไปเลย
.

ศึกเลือกตั้งที่ผ่านมาทำให้เสนาธิการ องคาพยพของฝ่ายอนุรักษนิยมสุดโต่ง และ อนุรักษนิยมก้าวหน้าจำต้อง คิดการใหม่ วางแผนกันใหม่เลยทีเดียว จะปล่อยแบบนี้ไม่ได้ ขณะที่ทางฝ่ายอนุรักษนิยมกำลังตกใจ และ วางแผนหาที่ทางรับมือกันอยู่ ฝั่งพรรคก้าวไกลไม่รอช้า ประกาศรบก๊อกสอง ด้วยการเดินเกมจับมือ MOU กับฝ่ายประชาธิปไตย เพื่อจัดตั้งรัฐบาล โดยมีพรรคเพื่อไทยคือพรรคที่ได้คะแนนลำดับสองเข้าร่วมด้วย
.

การรุกยังคงคืบหน้าอย่าท้าท้าย โดยมี การแก้รัฐธรรมนูญเป็นเดิมพัน ทำให้เห็นท่าทีและอาการพรรคร่วมพอควร ว่ามีลับลมคมในบางอย่าง
.

และแล้ว สิ่งที่นึก ๆ ไว้ มันก็เกิดขึ้นจริง…ดั่งวรรณกรรม 3 ก๊ก ที่ขุนนางอย่าง โจโฉ ได้กล่าวไว้ว่า “จริงคือเท็จ เท็จคือจริง จริง ๆ เท็จ ๆ คือหลัการสู้รบ”

.

ตอนต่อไป เราจะมาดูว่า พรรคก้าวไกล กับ พรรคเพื่อไทย ที่กลุ่มคนอ่านวรรณกรรมสามก๊ก จะเทียบเคียงว่า หากเสนาธิการของเพื่อไทย คือ โจโฉ การรับมือ สูตร 14+1 ของ จูกัดเหลียง ขงเบ้งแห่งพรรคก้าวไกลจะออกมาอย่างไร(โปรดติดตามตอนต่อไป สนุกแน่นอนครับ)

.
หมายเหตุ :คอลัมน์นี้เป็นปฐมบท การโมทีฟตัวเองเรื่องการเขียน ฝากแชร์ ฝากคอมเม้นท์ ด้วยครับ เพราะตั้งใจว่า จะเกาะติดการเมือง แล้วมาเขียนอธิบายให้เห็นภาพแบบง่าย ๆ มีต้องปรับปรุงแก้ไขตรงไหน แนะนำมาได้ ด้วยส่วนตัวกำลังสนใจ การเมืองปาตานี ในช่วงสงครามเย็น ยังไงฝากเป็นกำลังใจ ดุอาให้ผู้เขียนด้วยนะครับ