PEACE PROCESS MARKETING: การตลาดในกระบวนการสันติภาพ


โดยปกติการตลาดจะเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ การวางแผนการตลาด การสร้างแบรนด์ การขาย การทำโฆษณา เป็นต้น หากจะนำหลักการทางการตลาดเบื้องต้นมาจัดวางในบริบทของพื้นที่ปาตานี/ชายแดนใต้ ในส่วนของกระบวนการสันติภาพ ที่เริ่มต้นด้วยการเจรจา หรือการพูดคุย เพื่อให้เห็นว่าฅนทั่ว ๆ ไปในพื้นที่ยอมที่จะหันมาสนใจมากน้อยแค่ไหน มาลองมองดูว่า การตลาดในกระบวนการสันติภาพปาตานี/ชายแดนใต้ เป็นอย่างไร

พื้นฐานของการตลาด คือการชวนเชื่อ โน้มน้าวใจ สร้างความพึงพอใจ ตอบสนองความต้องการของลูกค้า เพื่อสร้างผลกำไรให้กับองค์กรหรือธุรกิจ แล้วในกระบวนการสันติภาพ ณ ตอนนี้ มองเห็นหรือไม่ว่า ลูกค้าหรือผู้บริโภค คือใคร อะไรคือสิ่งโน้มน้าวใจสามารถทำให้ลูกค้าหันมาสนใจยอมที่จะเสียเวลาติดตาม แม้จะอ้างว่าการเจรจาจะต้องเวลาที่ยาวนาน ดังนั้นยิ่งจะต้องมีการวางแผนการตลาด ที่เป็นการตลาดระยะสั้น และระยะยาว ควรสร้างโปรโมชั่นให้สามารถดึงดูด ทำให้เกิดความตื่นเต้นให้เกิดขึ้นเรื่อยๆ


ลูกค้า/ผู้บริโภค : มีงานวิจัย หรือการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ปาตานี/ชายแดนใต้หลายครั้งที่สามารถทราบถึงความสนใจต่อกระบวนการสันติภาพว่ามีมากหรือน้อยเพียงใด แต่ผู้ผลิตสินค้าทั้งสองฝ่าย ณ ปัจจุบัน คือ ขบวนการแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมลายูปาตานี (Barisan Revolusi Nasional Melayu Patani : BRN) กับ รัฐบาลไทย (Royal Thai Government : RTG) มีการศึกษาข้อมูลลูกค้าผู้สนใจในโปรดักช์ “กระบวนการสันติภาพ” อย่างจริงจังแค่ไหน เพื่อที่จะสามารถผลิตสินค้าให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า หรือการผลิตสินค้าต่าง ๆที่ออกมาเพียงแค่ตอบสนองความต้องการของผู้บริหารองค์กรเพียงอย่างเดียวเท่านั้น


โปรดักช์/ผลิตภัณฑ์ หรือบริการ : ในกระบวนการสันติภาพ คืออะไร คือการหยุดยิงชั่วคราว คือการไม่มีเหตุรุนแรง คือสันติสุขที่ได้อยู่ร่วมกันของหลากหลายชาตพันธุ์ หรือการได้กลับมาของแกนนำระดับสูงของขบวนการเคลื่อนไหวที่อยู่ต่างประเทศ หรือการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครองของพื้นที่

ขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อเอกราชปาตานี รวมทั่งฝ่ายรัฐบาลไทย อาจมีโปรดักช์ที่แตกต่างกัน มันจึงส่งผลทำให้การดีไซน์การสื่อสารแบรนด์ การขายต่างกันออกไป แต่อะไรคือโปรดักช์ที่แท้จริงของกระบวนการสันติภาพที่ควรจะเป็น

ราคา : ในที่นี้อาจจะไม่ใช่การควักตังค์ซื้อ หรือการยอมจ่ายเป็นตัวเงินเพื่อได้มาซึ่งสันติภาพ หรือ สันติสุข แต่อาจเป็นการยอมเสียเวลาติดตาม ศึกษา วิเคราะห์ หรือทำกิจกรรมใดที่จะต้องแลกกับอะไรสักอย่าง การลงทุนด้วยต้นทุนที่สูงของขบวนการฯ และฝ่ายรัฐบาลไทย จะทำให้การตั้งราคาเพื่อให้ลูกค้าหันมาสนใจในโปรดักช์ยอมที่จะเสียเวลาการทำหากิน สูงขึ้นตามไปหรือไม่ และเงินลงทุนเหล่านั้นมาจากแหล่งใด จะสามารถตอบโจทย์หรือสร้างผลกำไรกลับไปยังนักลงทุนในกระบวนการสันติภาพนี้หรือไม่

หรือทั้งสองฝ่ายจะยอมตั้งราคาที่ต่ำ เพื่อดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ แต่มันก็จะไปหนักที่การลงทุนในส่วนของการโฆษณาชวนเชื่อ การคิดโปรโมชั่นหรือการส่งเสริมการขาย เพื่อให้กลุ่มฅนใหม่ๆ หันมาติดตามและสนใจอย่างต่อเนื่อง อาจจะคุ้มค่าต่อการลงทุน


โปรโมชั่น/การส่งเสริมการขาย : ผู้ผลิตสินค้าและบริการทั้งสองฝ่าย ทั้งขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อเอกราชปาตานี และฝ่ายรัฐบาลไทย ไม่ควรสับสนระหว่าง โปรโมชั่น ที่จะให้แก่ลูกค้า กับโปรดักช์ เช่น การหยุดยิงชั่วคราว “รอมฎอนสันติ” การสร้างพื้นที่ปลอดภัย Safety zone โครงการพาฅนกลับบ้าน การปรึกษาหารือสาธารณะ (Public Consultation) เหล่านี้คือ โปรดักช์ หรือ โปรโมชั่น ของกระบวนสันติภาพ เพราะแต่ละอย่างมีระยะเวลาและพื้นที่ที่กำหนดชัดเจน โปรโมชั่นที่ดีมีประโยชน์ต่อลูกค้าย่อมกระตุ้นทำให้เกิดการตัดสินใจจ่าย พร้อมที่จะเป็นลูกค้าที่ภักดี หรือ Customer Loyalty ความจงรักภักดีที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์ โดยแสดงให้เห็นผ่านการซื้อซ้ำและการมีส่วนร่วมกับแบรนด์

การตลาด : จำเป็นจะต้องมีการสร้างกลยุทธ์ เครื่องมือ ที่ช่วยเหลือให้เกิดการซื้อสินค้าผลิตภัณฑ์ ภายใต้แบรนด์ของตนเอง ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมาก อย่างเช่น ส่วนแบ่งของตลาด Segmentation ทั้งสองฝ่ายอาจต้องวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้เห็นภาพว่าในตลาดของกระบวนการสันติภาพ นอกจากฝ่ายตนแล้วยังมีองค์กรื หรือ หน่วยงานใดบ้าง ที่มีบทบาท หรือพยายามที่จะมีบทบาทในกระบวนการสันติภาพ เพราะเหล่านี้อาจจะส่งผลดีที่จะช่วยให้เกิดการกระตุ้มให้เกิดการมีส่วนร่วมในสร้างความสนใจในประเด็นสันติภาพ ทำให้สินค้า โปรโมชั่นต่าง ๆ ภายใต้แบรนด์กระบวนากรสันติภาพเกิดความน่าสนใจมากขึ้น

ในทางกลับกันก็สามารถเป็นตัวขัดขวาง ไม่ได้ต้องการส่วนแบ่งทางการตลาดใด ๆ แค่เพียงต้องการทำลายความน่าเชื่อถือของ กระบวนการสันติภาพ เพื่อไม่ให้มันบรรลุผลขึ้นจริง หรือ เพียงแค่กระตุ้นให้เกิดการลงทุนที่ไม่ได้หวังผลกำไรตอบแทน เพราะตนเองได้ผลประโยชน์ในการลงทุนในจำนวนมากแล้ว

สำหรับขั้นตอนของการสร้างแบรนด์ “กระบวนการสันติภาพ” ที่กำลังเกิดขึ้นช่วงเวลาปัจจุบันจริง ๆแล้ว เป็นกระบวนการร่วมกันสร้างของทั้งสองฝ่าย แต่ต่างฅนต่างสร้างโปรดักช์ สันติภาพ ตามความต้องการของตนเอง เพื่อตอบโจทย์การลงทุนที่ทุ่มเทลงไป และตอบสนองกลุ่มลูกค้าของตนเองที่มีรสนิยม ชาติพันธุ์ ภาษา วัฒนธรรม ขนบ ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

.
#TheMotive
#Opinion
#PeacePROCESS
#PEACEPROCESSMARKETING