13 สิงหา รถยนต์ตกค้างในมาเลย์ สามารถนำกลับเข้าประเทศไทยได้แล้ว

รายงานจาก เพจ สวท.สุไหง-โกลก ระบุว่า สิ้นสุดการรอคอย รถคนไทยที่ตกค้างที่ประเทศมาเลเซียมากว่า 5 เดือน มาถึงประเทศไทยแล้ว ท่ามกลางความยินของเจ้าของรถที่รอคอยอย่างมีความหวังมายาวนาน

การปิดการสัญจรระหว่างไทย-มาเลเซียทางด่านพรมแดนระหว่างประเทศในพื้นที่ปาตานี/จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 เพราะสถานการณ์โรคระบาดโควิด -19 ทำให้ยานพาหนะส่วนบุคคลไม่สามารถนำกลับเข้ามาในทุกกรณี ซึ่งส่งผลให้มีรถยนต์ตกค้างในขณะที่เจ้าของรถเดินทางกลับเข้าประเทศไทยแล้ว

อย่างไรก็ตามเพื่อดำเนินการตามมาตรการด้านสาธารณสุข รถทุกคันที่นำกลับเข้ามาจะต้องจอดฆ่าเชื้อที่บริเวณด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก เป็นระยะเวลา 3 วัน โดยรถที่นำเข้ามาวันที่ 10 สิงหาคม 2563 เจ้าของรถสามารถมารับรถได้ในวันที่ 13 สิงหาคม 2563 ตั้งแต่เวลา 9.00น. ณ จุดให้บริการหน้าด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก โดยเจ้าหน้าที่อส.ท่องเที่ยว ที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลกสวมชุดป้องกันการติดเชื้อ(PPE) อย่างรัดกุม เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่เข้าไปรับรถบริเวณรอยต่อระหว่างพรมแดนที่ด่านรันเตาปันยังเพื่อนำกลับเข้ามาที่ด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก ซึ่งได้มีการตรวจสอบเอกสารหลักฐานการครอบครองรถอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันการแอบอ้างโจรกรรมรถ อีกทั้งเมื่อข้ามแดนเข้ามาจะต้องทำการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19อีกขั้นตอนหนึ่ง

นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก กล่าวแสดงความยินดีกับเจ้าของรถที่ได้รถกลับมา ภาครัฐตระหนักถึงความเดือดร้อนของผู้ที่มีรถตกค้างอยู่ในประเทศมาเลเซีย จึงพยายามหาแนวทางช่วยเหลือเต็มที่ นอกจากนี้ได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ประจำด่านพรมแดนรันเตาปัน ประเทศมาเลเซียที่ให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกในทุกด้าน

นายอับดุลกอเดร์ อูโด ชาวบ้านจากอำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า รถของตนเป็นรถตู้ที่มีการปรับสภาพภายในสำหรับการรับส่งผู้ป่วยติดเตียง เมื่อรถติดอยู่ในประเทศมาเลเซียทำให้การดูแลรับส่งผู้ป่วยจึงเป็นไปอย่างยากลำบาก ได้เห็นรถของตนเองกลับมาทางฝั่งประเทศไทยจึงรู้สึกดีใจมาก


ด้านนายรุสดี ยาเซ็ง ชาวบ้านจากตำบลมูโนะ กล่าวว่ามากกว่า 5 เดือนแล้วที่รถต้องอยู่ในประเทศมาเลเซีย การไม่มีรถยนต์ใช้ทำให้การทำงานยากลำบากมาก วันนี้ถือเป็นอีกหนึ่งวันที่มีความสุขมาก และอยากขอให้ภาครัฐได้ใช้มาตรการเดียวกันนี้ เพื่อช่วยนำรถคนไทยที่ตกค้างอยู่ตามรัฐต่างๆของประเทศมาเลเซียออกมาได้ทั้งหมด เพราะเข้าใจถึงความเดือดร้อนและผลกระทบที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ขอบคุณทุกหน่วยงานที่ช่วยเหลือ

.