‘ซูกริฟฟี-เปอร์มัส’ ร่วมเวที ‘เราคือเพื่อนกัน’ ลั่น รู้ไหมลูกเสือไล่หมาออกจากทำเนียบเขาทำอย่างไร

เผยเรื่องราวการตายของอับดุลเลาะ อีซอมูซอ ในค่ายทหาร ขอ 30 วินาทียืนนิ่งพร้อมชู 3 นิ้วเป็นกำลังใจให้ครอบครัวอับดุลเลาะและความอยุติธรรม ตอบรัฐบาลชี้ชูสามนิ้วคือลูกเสือ บอกให้รู้ว่าลูกเสือไล่หมาออกจากทำเนียบอย่างไร ซัดการปกครองแบบทหารอำนาจนิยมทำให้ฅนกลัว แต่วิธีการนี้แสดงให้เห็นว่า เขากำลังกลัวประชาชน.วันที่ 27 ส.ค.2563 ณ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ถ.ราชดำเนินนอก แขวงเสาชิงช้า บริเวณสี่แยกคอกวัว กลุ่มดาวดินสามัญชน จัดแฟลชม็อบภายใต้ชื่อ “มหกรรมประชาชน นอนแคมป์ไม่นอนคุก #เราคือเพื่อนกัน” โดยมีการปราศรัยจากกลุ่มต่างๆ ที่เคยมีการจัดชุมนุมต่อต้านรัฐบาลในที่ต่างๆ.

ซูกริฟฟี ลาเตะ ประธาน สหพันธ์นิสิตนักศึกษา นักเรียน และเยาวชนปาตานี และหนึ่งในผู้ร่วมปราศรัยในวันนี้ได้กล่าวว่า ฅนเราจะบรรลุความเป็นเสรีชนได้อย่างไร หากไม่สามารถเลือกรัฐบาลที่ตัวเองพอใจและบอกโลกได้ว่าตัวเองต้องการอะไร ความเสมอภาคของมนุษย์จะปรากฏเป็นจริงด้วยวิธีไหน หากไม่ใช่สิทธิ เสียงที่เท่ากันในการกำหนดชะตากรรมของบ้านเมือง ความเป็นธรรมก็เช่นกัน เราคงไปถึงจุดนั้นไม่ได้ถ้าผู้ฅนที่เสียเปรียบไม่สามารถผลักดันให้รัฐคุ้มครองผลประโยชน์อันพึงมีได้ของพวกเขา.

ดังนั้นท่านทั้งหลายจะเห็นได้ว่า ระบอบประชาธิปไตยไม่ใช่การปกครองที่เลื่อนลอย หรือ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิที่ไม่สามารถจับต้องได้ หากเป็นความสัมพันธ์ทางอำนาจที่เรียบเรียงง่ายและชัดเจน และมีสาระใจความทางปรัชญาอยู่หนึ่งประโยค คือ “ประชาชนเป็นนายตัวเอง”.

ขอความสันติจงมีแด่ทุกท่าน ชื่อลี มาจากจังหวัดชายแดนใต้/ปาตานี.

“ปาตานี” คืออะไร ก็ขอย้ำกับทุกท่านอีกครั้งหนึ่งเหมือนกับพี่น้องที่เชียงใหม่เรียกตนเองว่า “เป็นฅนล้านนา

วันที่ผมเดินทางมาครั้งนี้ตรงกับวันที่ 25 (ส.ค.2563) เฟสบุ๊คของผมได้แจ้งเตือนเรื่องราวสำคัญอย่างหนึ่ง คือ “วันครบรอบการเสียชีวิตของคุณอับดุลเลาะ อีซอมูซอ”.

ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยรู้จักคุณอับดุลเลาะ อีซอมูซอ เป็นการส่วนตัว แต่ตั้งแต่ที่เขาถูกควบคุมตัว หมดสติ และถูกส่งไปยังโรงพยาบาล พวกผมมีโอกาสได้ดูแลครอบครัวของเขาตั้งแต่วินาทีแรกจนถึงวาระสุดท้ายที่ครอบครัวของเขาต้องตัดสินใจถอดสายออกซิเจนออกจากตัวเขา.

คุณอับดุลเลาะ อีซอมูซอ มีอาชีพเป็นช่างก่อสร้าง มีลูกสองฅน อายุไม่ถึง 15 ปี แม่ของเขาพิการเป็นใบ้พูดไม่ได้ ภรรยาของเขาไม่สามารถพูดภาษาไทยได้ เขาต้องเสียชีวิตโดยปริศนาและไม่ได้อำลาครอบครัวของเขาสักคำเดียว.

ผมขอ 30 วินาที จากทุกท่านชูสามนิ้วและสงบนิ่งเพื่อเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวของเขาและความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นในประเทศนี้.

พี่น้องครับ รัฐบาลชุดนี้ บอกว่าฅนที่มาชูสามนิ้วอยู่ตรงนี้ คือ ลูกเสือ ปล่อยให้เขาพูดไปและบอกให้เขารู้ว่าเวลาลูกเสือไล่หมาออกจากทำเนียบเขาทำกันอย่างไร.ประเทศไทยปกครองฅนด้วยความกลัว ประเทศไทยไม่เคยปกครองฅนโดยมองฅนเท่ากัน.

ผมมาจากปาตานี ผมจะเล่าให้ฟังว่า ความกลัวในการควบคุมฅนที่นั่นและมาถึงที่นี่ยังไง การปกครองแบบทหารอำนาจนิยม การปกครอบครองที่แบ่งแยกฅน ทำให้ฅนรู้สึกว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่ฅนเห็นต่าง คือ ปีศาจ เมื่อไหร่ก็ตามที่ฅนมีความคิดต่างกัน คือ ต้องตาย.

ผมมีโอกาสได้คุยกับน้องฅนหนึ่งที่มาหางานทำที่กรุงเทพฯ เพื่อสมัครงานเป็น รปภ. (เจ้าหน้าที่ รักษาความปลอดภัย) พอไปถึงบริษัท แต่บริษัทกลับไม่รับ เพราะว่าเขาเป็นฅนสามจังหวัด และถามเขาด้วยความเหยียดหยามว่า เอาระเบิดมาหรือเปล่า จะไปวางระเบิดไว้ที่ไหน ซึ่งคำพูดแบบนี้ผมฟังแล้วรู้สึกเจ็บปวด แต่ผมจะไม่พูดถึงฅนที่พูด แต่ใครกันที่ทำให้สังคมไทยเป็นแบบนี้.

การปกครองวัฒนธรรม คือ การเมืองที่มีการใช้อำนาจนิยม ใช้วิธีคิดแบบทหาร แบ่งแยกฅนเพื่อทำให้เกิดสถาการณ์แบบนั้น นั่นคือความสามารถเดียวของเผด็จการที่ควบคุมพวกเราได้ตลอดหลายปี.

วันที่ 16 ผมขึ้นปราศรัยที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและผมกลับบ้านเปิดเฟสบุ๊ค และเจอว่าปาตานี คือ ความขัดแย้งระหว่างฅนพุทธกับมุสลิม ถ้าทุกท่านเจอแบบนี้ ทุกท่านคอมเมนต์ตอบไปเลยครับว่า 200 หรือ 300 บาท และโดนหักหัวคิวไปเท่าไหร่ ฝากถาม I.O (หน่วยปฏิบัติการทางข้อมูลข่าวสาร) ว่าอะไรกันที่ทำให้คุณพูดแบบนั้น.

การปกครองด้วยความกลัวเข้ามาสู่พวกเรา เข้ามาสู่ประเทศไทยอย่างกว้างขวาง วันนี้ฅนที่เรียกร้องประชาธิปไตยต้องถูกแบ่งแยก และบอกว่าเขาถูกปลุกปั่น เขายุยงให้ฅนกลัว การปกครองที่มองว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ ลองตอบประชาชนฅนไทย ผ่านวาทกรรมมากมาย ชังชาติ ล้มล้าง จาบจ้วง นั่นคือวิธีคิดของอำนาจนิยม.

วันนี้ผมเห็นพี่น้องเสื้อแดงมาหลายฅน วาทกรรมความแดง วาทกรรมเผาบ้านเผาเมือง ที่ทำลายจนเป็นตราบาปของชีวิตเขาวันนี้ อะไรคือสิ่งที่เกิดขึ้น วาทกรรมแบบนี้มันเบียดฅน มันฆ่าฅน และมันทำให้ฅนแตกแยก จงบอกเขาว่า ถ้าวันนี้เราจะขัดแย้งก็ไม่ใช่เพราะพวกเรา แต่เป็นเพราะพวกเขา.

อีกวิธีการหนึ่งที่พวกเขาชอบทำให้เรามีปัญหากันตลอด คือ การคุกคามประชาชนที่เป็นเครื่องมือในการแบ่งแยกฅนออกจากกันอย่างไร การคุกคามประชาชนที่เกิดขึ้นในปาตานีบ้านของผม 16 ปี วิธีการไม่แตกต่างกัน ใช้กฎหมาย อุ้มเข้าค่ายทหาร นอกเครื่องแบบไปเยี่ยมเยียน แต่ที่นี่นอกเครื่องแบบเนียนมาก แม้จะดูว่ามีผมขาวแต่ก็เนียนอยู่ แต่บ้านผมเขาถืออาวุธสงครามไปเยี่ยม.

วิธีการแบบนี้ไม่ต่างกัน วันนี้ที่กรุงเทพฯ ก็ใช้วิธีการเดียวกัน การใช้กฎหมาย การไปเยี่ยมเยียน การกดดัน คือ วิธีการเดียวกัน เป๊ะ เป๊ะ.

แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เผด็จการอำนาจนิยมใช้วิธีการแบบนี้แสดงว่า เขากำลังแพ้ แสดงว่าเขากำลังกลัวประชาชน ก็ทำให้เขาเห็นเสียทีสิครับ ไพร่ก็เป็นมาแล้ว ทาสก็เป็นมาแล้ว ฅนชังชาติก็เป็นมาแล้ว ขอเป็นพลเมืองสักทีเถอะครับ.

เป็นพลเมืองมันยากมากหรือประเทศนี้ เราต้องยืนยันว่าเรามีเสรีภาพ เราต้องยืนว่าเราเป็นฅน ฅนเท่ากัน ทำให้รู้ว่าเสียงจากดินมันก็ส่งถึงฟ้าได้เหมือนกัน.วิธีการคุกคามแบบนี้ไม่ใช่วิธีการที่ทำให้เรากลัว วิธีการคุกคามแบบนี้เป็นวิธีการเด็กๆ ถ้าพวกท่านต้องการจะคุกคามเรามากก็มาเอาสิครับทั้ง 8 หมื่นกว่าฅน 8 แสนกว่าฅนในตลาดหลวงท่านก็มาเอาสิครับ.

การปกครองฅนด้วยความกลัวมันสร้างอทธิพลหลายอย่าง ไม่แปลกที่ยังหลอกลวงประชาชนว่าเราต้องรักษาความมั่นคง เราต้องรักษาดินแดน ไม่แปลกที่เรือดำน้ำสำคัญกว่าชีวิตของประชาชน ไม่แปลกที่อาวุธสำคัญกว่าปากท้องของพี่น้องประชาชน อำนาจอธิปไตยในเฟสบุ๊คก็สำคัญน่ะครับ.

สิ่งที่ผมจะพูดต่อไป คือ เมื่อไหร่ก็ตามที่เรายังมีความหวัง ความกลัวไม่เคยเอาชนะความหวังได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่เรายังหวังว่าประชาธิปไตยมันจะเกิดขึ้นในประเทศนี้ เมื่อไหร่ก็ตามที่เราหวังว่าเสรีภาพมันจะเกิดนขึ้นในประเทศนี้ เมื่อไหร่ก็ตามที่เราหวังว่าอำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน เมื่อนั้นเราก็จะชนะ