วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ.2564 The Motive ได้รับแจ้งจากกลุ่ม “ยะลาปลดแอก – Yala free youth” ว่าพรุ่งนี้ (13 ส.ค.2564) เวลา 10.00 น. ผู้เข้าร่วมคาร์ม็อบยะลา เมื่อวันที่ 1 ส.ค. จำนวน 3 ฅน ได้รับหมายเรียกจากสถานีตำรวจภูธรเมืองยะลาเพื่อรับทราบข้อหาคดี “คาร์ม็อบยะลา”
.
โดยถูกกล่าวหาในคดีร่วมกันจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคระบาดในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ซึ่งมีการรวมกลุ่มกันของบุคคลที่มีจำนวนมากกว่า 5 คนขึ้นไป ผู้กล่าวหาคือ พ.ต.อ.ตรัยกฤษ์ ปัญญาไตรรัตน์
.
ในจำนวนนี้ผู้ถูกกล่าวหาคดีดังกล่าวทั้งหมด 8 ฅน แต่ในรอบแรกทาง สภ.เมืองยะลาได้เรียกเพียงแค่ 3 ฅนไปก่อน ได้แก่ นายประเสริฐ ราชนิยม นางสาวอามานียะ ดอเล๊าะ และนายอารีฟีน โสะ ส่วนที่เหลืออีก 5 ฅน เบื้องต้นจะนัดอีกทีในวันที่ 24 สิงหาคม นี้
.
ด้านนายณรงค์ อาแว ทนายความเครือข่ายศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า “พรุ่งนี้เป็นการนัดแจ้งข้อกล่าวหารวม 3 ฅน ที่เป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ ซึ่งทั้ง 3 ฅน ได้รับหมายเรียกจาก สภ.เมืองยะลามาแล้วถึง 2 ครั้ง
.
ส่วนที่เหลืออีก 5 ฅน เบื้องต้นผมได้ทำเรื่องขอเลื่อนนัดเป็นวันที่ 24 ส.ค. แต่ไม่แน่ใจว่าจะได้รับอนุญาติหรือไม่ ทุกอย่างมันกระชั้นชิดไปหมด
.
ส่วนเรื่องฝากขังนี้ผมเผื่อใจไว้ก่อน และไม่แน่ใจด้วยวว่าหลัง จนท.แจ้งข้อกล่าวหาแล้วจะได้รับการปล่อยตัวหรือเปล่า อันนี้ต้องดูดุลพินิจของ จนท.อีกที
.
เขานัดวันศุกร์ หากมีการฝากขังก็คงจะลำบากหน่อยในการทำเรื่องประกันตัว แต่เครือข่ายทางกรุงเทพฯ ก็ได้เตรียมในเรื่องกองทุนเพื่อขอความช่วยเหลืออยู่แล้ว ถึงกระนั้นก็ตามเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้ใครไปนอนในคุก
.
เรื่องการต่อสู้คดีในชั้นศาลก็คงต้องทำงานเป็นทีมกับทนายท่านอื่นๆ ในพื้นที่ เพราะเชื่อว่าต่อไปนี้ยังคงมีอีกหลายฅนที่จะโดนคดีในลักษณะนี้ อีกเรื่องเคสแบบนี้พึ่งเกิดขึ้นครั้งแรกในพื้นที่บ้านเรา” นายณรงค์ กล่าว
.
ในวันเดียวกันนี้ ทาง จนท.ตำรวจ ทั้งในและนอกเครื่องแบบได้บุกเยี่ยมบ้านเยาวชนใน จ.ยะลา ที่เคยไปร่วมกิจกรรมคาร์ม็อบยะลาเมื่อวันที่ 1 ส.ค. หลายรายด้วยกัน อันได้แก่
.
นายมะซอดี ดือรากี อายุ 21 ปี เยาวชนในหมู่บ้านท่าสาป ม.3 ต.ท่าสาป จ.ยะลา เปิดเผยกับ The Motive ว่าได้รับหมายเรียกเมื่อวันที่ 10 ส.ค. ให้ไปฟังข้อกล่าวหาที่ สภ.เมืองยะลาในวันที่ 16 ส.ค. แต่ได้คุยกับทนายแล้วว่าจะเลื่อนเป็นวันที่ 24 ส.ค
.
แต่เมื่อเวลา 15.00 น.ของวันนี้(12 ส.ค.) จนท.ตำรวจจาก สภ.เมืองยะลา ประมาณ 4 คันรถได้มาที่บ้านของตนอีกเพื่อตักเตือนเรื่องมาตราการโควิด และห้ามชุมนุมเกิน 5 ฅน ใช้เวลาพูดคุยกันประมาณ 40 นาที
.
“ วันจัดคาร์ม็อบยะลาผมยอมรับผมไปร่วมจริง ผมไปถ่ายภาพกิจกรรมเก็บไว้ แต่บังเอิญถูก จนท.ตำรวจที่มาสังเกตการณ์ม็อบเรียกตรวจบัตรประชาชนและใบขับขี่ แต่ผมไม่มีใบขับขี่เขาเลยยึดรถไปและไปจ่ายค่าปรับที่โรงพัก 200 บาท คิดว่าจบแล้ว
.
แต่อยู่ๆ ก็มีหมายเรียกมาที่บ้าน ตนคิดว่าเขาส่งมาถึงบ้านได้เหตุเพราะจากบัตรประชาชนที่เขาขอดูในวันจัดม็อบ” นายมะซอดี กล่าว
.
ด้านนายอัมรี อาโก๊ะ อายุ 22 ปี เยาวชนบ้านสะเตงนอก ม.6 ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา เปิดเผยว่าได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านตอนบ่าย วันนี้ (12 ส.ค.) ว่าจนท.ตำรวจจะมาเยี่ยมที่บ้านเพื่อมาเช็คชื่อ
.
“ผมเลยบอกไปว่า ผมไม่สะดวกเพราะวันนี้จะออกไปข้างนอก แต่เขาบอกว่าไม่เป็นไรเขาแค่จะมาเช็คชื่อเฉยๆ
.
เวลาประมาณ 16.30 น. ก็มี จนท.ตำรวจนอกเครื่องแบบจำนวน 3 ฅน เขาบอกว่าเขาตามจากป้ายรถตอนตนไปร่วมคาร์ม็อบ โดยอ้างว่ามาแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับมาตราการโควิด พร้อมถ่ายรูปรถมอเตอร์ไซค์ที่ขับไปในวันนั้น” นายอัมรี กล่าว
.
สำหรับนายอิสมาแอ เกาะและ อายุ 21 ปี เยาวชนบ้านสโร่ง ม.3 ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เผยว่า จนท.ตำรวจมาเยี่ยมบ้านเมื่อวาน (11 ส.ค.) มากัน 5 ฅน แต่ไม่ได้แจ้งว่ามาจาก สภ.ไหน
เขาบอกว่ารอบนี้มาแค่เตือนเรื่องม็อบและเรื่องโควิด หลังจากนี้ห้ามไปม็อบอีก เพราะเป็นห่วงกลัวจะติดโควิดกลับมา
.
“แต่ที่ผม งง คือ เขารู้ได้อย่างไรว่าเราไปม็อบ และรู้ได้อย่างไรว่าบ้านเราอยู่ที่ไหน ถ้าตามจากป้ายรถก็น่าจะไม่ใช่ เพราะรถเป็นชื่อมารดาผม และที่ยิ่ง งง กว่านั้นเขายังรู้อีกว่าวันม็อบใครซ้อนท้ายรถของผม
.
เขามีทั้งชื่อและนามสกุล และยังให้ผมโทรตามเพื่อนมาด้วย แต่บ้านเพื่อนผมอยู่บ้านยุโป อ.เมือง จ.ยะลา มาไม่ทันอยู่แล้ว จนท.เลยบอกว่าถ้างั้นรอรับหมายเรียกจาก สภ.ล่ะกัน
.
ถ้าเขาแจ้งล่วงหน้า ผมก็นัดเพื่อนมารอที่บ้านได้ แต่นี่ไม่ได้บอกอะไร อยู่ๆ ก็มา” นายอิสมาแอ กล่าวทิ้งท้ายด้วยความสับสน
.