เผด็จการทำปาตานีเดือดร้อน ปาตานีจะไม่ทน

กลุ่มเยาวชนปาตานีปลดแอก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเยาวชน นักเรียน นักศึกษา นักเคลื่อนไหวประชาธิปไตยในพื้นที่ กว่า 300 คน สวมชุดวัฒนธรรมมลายูเชิงสัญลักษณ์เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณหน้าลานมัสยิดกรือเซะ ต.ตันหยงลูโล๊ะ อ.เมือง จ.ปัตตานี เพื่อเรียกร้องไล่ประยุทธ์-ไม่เอารัฐบาลเผด็จการ


บรรยากาศการปราศรัย เมื่อวันที่ 2 ส.ค.63 ที่ผ่านมา มีนายสุไฮมิง ดุละสะ อดีตแกนนำนักศึกษากลุ่มเปอร์มัส หนึ่งในผู้ร่วมปราศรัย และผู้ฅนชายหญิงอีกจำนวนหนึ่งผลัดเปลี่ยนกันแสดงความคิดเห็นหลายเรื่องที่สำคัญ


สุไฮมิง เปิดประเด็นด้วยการร้องเพลงว่า “ใครที่ต้องการความก้าวหน้า ให้ปรบมือดัง ใครที่ต้องการความเป็นหนึ่ง ให้ปรบมือดัง และใครที่ต้องการการเปลี่ยนแปลง ให้ปรบมือดัง” โดยมีผู้ร่วมชุมนุมปรบมือดังเป็นจังหวะตามเนื้อเพลงที่สุไฮมิงได้ร่ำร้อง


หลังจากนั้นสุไฮมิง ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ไม่มีเหตุผลอันใดที่ทำให้เราต้องมารวมตัวกันที่นี่ นอกเสียจากการแสดงออกทางความคิดเห็นตามระบอบประชาธิปไตยและขับไล่นายกรัฐมนตรีที่กรุงเทพฯ


ความจริงหากเรามองปรากฎการณ์ในประเทศไทยวันนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ในภูมิภาคอื่นๆ ของประเทศไทย มีผู้ฅนจำนวนหนึ่งที่ใช้ความพยายามในการขับไล่รัฐบาลประยุทธ์ให้ลงจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี


เราไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลก่อนหน้านี้จะดีกว่า แต่รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่แย่ที่สุดแล้ว วันนี้เรามาร่วมแสดงจุดยืนในฐานะฅนหนุ่มสาว เราต้องการอนาคตที่ดีขึ้น ใครเห็นด้วยว่าประยุทธ์ต้องลงจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรีให้ชู 3 นิ้ว


ในภูมิภาคอื่นๆ จะเห็นเด็กนักเรียนออกมาแสดงความคิดเห็นเพื่อขับไล่รัฐบาลประยุทธ์ พร้อมเรียกร้องให้มีการยุบสภา ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และหยุดคุกคามประชาชน วันนี้เราขอหนุนเสริมข้อเรียกทั้ง 3 ข้อดังกล่าว เราอย่าเปิดช่องให้ สว.แต่งตั้งทั้ง 250 ฅนเข้ามามีตำแหน่งและอำนาจมากกว่าประชาชนทั้ง 70 ล้านฅน”


สุไฮมิง ได้ทำการตะโกนว่า “ไอตู่” ผู้เข้าร่วมงานตอบตามหลังเป็นจังหวะพร้อมเพรียงกันด้วยคำว่า “ออกไป”

ไอตู่ ออกไป ไอตู่ ออกไป ไอตู่ ออกไป

พร้อมกล่าวหลังจากนั้นต่อว่า ประชาธิปไตย คือ หนึ่งระบบการปกครองประเทศที่ปกครองประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน นี่คือประชาธิปไตยที่แท้จริง


นั่นก็หมายความว่า เราในฐานะประชาชนที่คอยจ่ายภาษีให้รัฐบาลนำไปบริหารประเทศทุกครั้ง อย่างเช่น เราจ่ายค่าน้ำมันรถ 100 บาท รัฐบาลหักภาษีเข้ากองกลาง 7 บาท หมายความว่าเราเติมจริงแค่ 93 บาท อีก 7 บาทรัฐหักภาษีเพื่อนำไปบริหารประเทศและอำนวยให้กับประชาชน นี่คือตัวอย่างการจ่ายภาษีของเราที่ต่ำสุดแล้ว


ตามระบบประชาธิปไตย เราสามารถนำมาใช้เพื่อยกระดับวิถีชีวิตของเราได้ แต่รัฐบาลปัจจุบันกลับใช้ฟุ่มเฟือย บริหารไม่เป็น ภาษีที่จ่ายกลับไม่ถึงมือประชาชน


เพราะประเทศไทยในวันนี้ไม่ได้ใช้ระบบประชาธอธิปไตยในการปกครองประเทศ นอกเสียจากคำพูดว่ากรูคือประชาธิปไตย ขณะความจริงกลับถูกปกครองโดยรัฐบาลเผด็จการที่นำโดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเราไม่ต้องการ


เราต้องการผู้นำที่มีศักยภาพ ไม่ใช้ผู้นำที่คอยกดขี่ประชาชน “ใครคิดว่าตนต้องการรัฐบาลประยุทธ์จงยกมือขึ้น” “แต่ถ้าใครไม่เอาลุงตู่จงชู 3 นิ้ว”

ถามว่าทำไมปาตานีถึงต้องออกมาเรียกร้องระบบประชาธิปไตย เพราะเราอยู่ภายใต้ระบบของความมั่นคงมาอย่างยาวนาน จึงทำให้เพื่อนพ้องเราอีกมากมายไปกล้ามาร่วมงานนี้ เนื่องจากพวกเราคุ้นชินกับความกลัวที่ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ข่มขู่ กดขี่ และทำลายมาอย่างยาวนาน แค่เพียงจะมาแสดงความคิดเห็นถึงสิ่งที่ไม่เห็นด้วยยังรู้สึกเกรงกลัว


ฉะนั้น สำหรับผู้ที่มาแล้ว จึงร่วมกันสร้างบรรยากาศทางการเมืองในรูปแบบใหม่ให้ปรากฎขึ้นในเร็ววันให้จงได้ ไม่ท้อและไม่ถอย

.