Malcolm x : มุสลิมผิวดำผู้ปลุก ‘สันติภาพและความยุติธรรม’ ในสังคมอเมริกา

“No peace, No justice” ไม่อาจมีสันติภาพได้หากไร้ซึ่งความยุติธรรม เป็นประโยคที่ปรากฏแทบทุกการชุมนุมของประชาชนที่ต้องการเรียกร้องหาความยุติธรรม แม้แต่สถานการณ์ประท้วงล่าสุดในสหรัฐอเมริกา หลังกรณีคนดำที่ชื่อ จอร์จ ฟลอยด์ ต้องเสียชีวิตจากการกระทำของตำรวจ


เจ้าของประโยคนี้คือ Malcolm x นักเคลื่อนไหวทางการเมืองมุสลิมอเมริกาในยุคอดีตที่มีการตื่นตัวและต่อต้านการเหยียดผิวที่รุนแรงเพื่อเรียกร้องสิทธิและความเสมอภาคในสังคมของสหรัฐฯ


Malcolm เกิดในครอบครัวที่ยากจน เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 1925. เขาเป็นนักต่อต้านลัทธิเหยียดผิวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา ก่อนจะจบชีวิตด้วยการถูกยิงในวัยเพียง 40 ปี


Malcolm เดิมเป็นคริสเตียน และเปลี่ยนเข้ารับแนว the Nation of Islam ของคนดำ และช่วงท้ายชีวิตได้หันมารับอิสลามแนวกระแสหลัก(ซุนหนี่) ดังนั้นเขาจึงถูกรู้จักกันในฐานะมุสลิมที่โดดเด่นที่สุดคนหนึ่งของสหรัฐอเมริกา


Malcolm มีชีวิตวัยเด็กในบ้านเลี้ยงดูเด็กกำพร้า จนช่วงวัยรุ่น Malcolm ได้หลงเข้าสู่เส้นทางมิจฉาชีพ กระทั่งในปี 1946 ก็ถูกจับด้วยข้อหาค้ายาเสพติดและลักทรัพย์ ถูกตัดสินโทษจำคุก 10 ปี ช่วงเวลาในคุกเขาเริ่มศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง โดยเฉพาะวิชาประวัติศาสตร์และปรัชญา การอ่านมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ได้เปลี่ยนชีวิตของเขาให้กลายเป็นผู้ทรงความรู้คนหนึ่ง ระหว่างถูกจองจำ Malcolm เกิดความสนใจกับคำสอนที่ถ่ายทอดโดย Elijah Muhammad และในไม่ช้าเขาก็ได้เข้าร่วมกับ “ชาติอิสลาม”(Nation of Islam) ซึ่งมีฐานปฏิบัติการอยู่ในชิคาโก นำโดย Elijah Muhammad (เป็นกลุ่มมุสลิมดำ ซึ่งถือว่าอยู่นอกแนวทางอิสลาม กลุ่มนี้เชื่อว่า คนผิวดำเป็นกลุ่มชนพิเศษที่เหนือกว่าคนขาว และความเชื่ออื่นๆที่ไม่นับว่าสังกัดอยู่ในศาสนาอิสลาม)


หลังจากเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลาม Malcolm เปลี่ยนนามสกุลจาก “ลิตเติล” ( Little)เป็น “เอ็กซ์” (X) โดยให้เหตุผลว่า เป็นชื่อที่สื่อแสดงถึงความเป็นนามสกุลของชาวแอฟริกันที่แท้จริง (คือ ไม่ทราบที่มา) แทนที่นามสกุลเดิมที่สื่อถึงชาวผิวขาว คำว่า x “เอ็กซ์” จึงเป็นชื่อที่แทนชื่อที่ไม่รู้จัก อันเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงบรรพบุรุษที่ถูกคนขาวจับมาเป็นทาส


Malcolm ยังเป็นผู้ชักชวนนักมวยระดับโลกอย่าง เคสเซียส เคลย์ (ชื่อเดิมของมูฮัมหมัด อาลี (Muhammad Ali) นักมวยรุ่นเฮฟวีเวทในตำนาน) มาเข้ารับอิสลามและเป็นสมาชิกของกลุ่มชาติอิสลามที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในช่วงเวลานั้น


เหตุการณ์สำคัญอีกครั้งที่ได้เปลี่ยนชีวิตของเขาเกิดขึ้นในปี 1963 เมื่อเขาเริ่มไม่เห็นด้วยกับแนวทางของกลุ่ม “ชาติอิสลาม”(Nation of Islam) และขัดแย้งกับพฤติกรรมที่ผิดๆของ Elijah Muhammad จนนำไปสู่การลาออกจากองค์กรนี้ในปี ค.ศ. 1964


Malcolm ได้ใช้เวลาช่วงนี้เดินทางไปทำฮัจญ์ ณ นครมักกะฮ์ ซาอุดิอาระเบีย เขาได้รับการรับรองจากกษัตริย์ไฟศอลให้เป็นแขกของรัฐบาล ในขณะทำฮัจญ์ Malcolm ได้ตระหนักถึงความเป็นจริงของความเสมอภาคของมนุษย์ จากผู้ศรัทธาทุกสีผิว ทุกระดับชนชั้นสังคม ด้วยความเข้าใจในสาน์สแห่งอิสลาม ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเปลี่ยนชื่อตัวเอง จากมัลคอล์ม เอ็กซ์ เป็น อัล-ฮัจญ์ มาลิก อัล-ชะบาซ (El-Hajj Malik El-Shabazz) ซึ่งเขาได้บันทึกไว้ว่า

“… มีผู้แสวงบุญจำนวนนับล้านจากทุกมุมโลก หลากหลายมากมายผิวพรรณตั้งแต่ตาสีฟ้า ผมสีทอง จนถึงแอฟริกันผิวดำ แต่เราทั้งหมดก็ประกอบพิธีกรรมเดียวกัน ร่วมแสดงออกถึงจิตใจที่เป็นหนึ่งเดียวในความเป็นพี่น้องกัน ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมาของผมในอเมริกา ทำให้ผมมีความเชื่อว่า สิ่งนี้จะไม่มีอยู่จริงระหว่างคนผิวขาวและคนที่ไม่ใช่คนผิวขาว
… สิ่งที่ผมได้พบเห็นและเรียนรู้ทำให้ผมจัดระเบียบรูปแบบความคิดของผมที่เคย ยึดถือมาก่อนเสียใหม่แล้วโยนความเชื่อเก่าๆ เหล่านั้นออกไป…หัวใจของผมเปิดกว้างซึ่งมันเป็นความจำเป็นที่ต้องมีความยืดหยุ่นเพื่อที่จะ ก้าวเดินไปด้วยกันกับทุกๆ ภูมิปัญญาแห่งสัจจะ”


Malcolm ได้เริ่มต้นการเคลื่อนไหวอิสลามในแนวทางใหม่ที่เขาเชื่อมั่น หลังจากกลับจากฮัจญ์เขาได้ตั้งองค์กรชื่อ “Muslim Mosque, Inc.” และ “Organization of Afro-American Unity” แม้ว่าการเคลื่อนไหวของเขาเริ่มต้นจากหมู่คนผิวดำ แต่เขาได้นำอิสลามที่ถูกต้องกลับมาสู่พวกเขา และประกาศละทิ้งแนวคิดที่ผิดๆในอดีตของเขา เรื่องนี้ได้สร้างความไม่พอใจเป็นอย่างมากต่อองค์กรเดิม The Nation of Islam (ชาติอิสลาม)


ความขัดแย้งเดินไปสู่จุดที่นองเลือด Malcolm ถูกสังหารเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1965 ขณะกำลังปราศรัยในหอประชุมแห่งหนึ่งในแมนฮัตตัน โดยชายฉกรรจ์สามคน ที่เป็นสมาชิกของขบวนการชาติอิสลาม แต่องค์กรดังกล่าวได้ปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับการลอบสังหาร เส้นทางของเขาจึงยุติลงด้วยการเป็น “ชาฮีด” (ผู้พลีชีพเพื่ออิสลาม) ในวัยหนุ่มอายุเพียง 40 ปี


ทุกวันนี้ชื่อ Malcolm x ได้ กลายเป็นสัญลักษณ์ที่ยิ่งใหญ่ของการแสวงหาสัจธรรมและการต่อต้านลัทธิเหยียดผิว และเขาได้เลือกอิสลามเป็นคำตอบต่อปัญหาทั้งหมด เรื่องราวของเขาได้กลายเป็นตำนานเล่าขานที่ยังมีชีวิต เพราะกระแสการประท้วงการเหยียดผิวในปัจจุบันก็ยังหนีไม่พ้นประโยคของเขา “No peace, No justice” ไม่อาจมีสันติภาพได้หากไร้ซึ่งความยุติธรรม.


อ้างอิง:
[1] บุญโชค พานิชศิลป์. ‘มัลคอล์ม เอ็กซ์’ นักปฏิวัติผิวดำเจ้าของสโลแกน “ไร้ความยุติธรรม ไร้สันติภาพ”, ใน https://themomentum.co/something-between-malcolm-x/
[2] Ummah Islam. The Stranger ใน Halal Life Magazine: Ghurabaa’ – The Strangers, ฉบับ 25.
[3]https://www.nytimes.com/1965/02/22/archives/malcolm-x-shot-to-death-at-rally-here-three-other-negroes-wounded.html
[4] https://en.wikipedia.org/wiki/Malcolm_X