
เขียน : Orang Perak
แปลและเรียบเรียง : อิสมาอีล ฮายีแวจิ
ที่มา : Viral Media Johor (https://shorturl.asia/E6JIa)
.
ตุน อับดุลลอฮ์ อาหมัด บาดาวี เกิดเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2482 ที่หมู่บ้านบายัน ลิอปัส รัฐปีนัง ท่านเป็นบุตรคนโตของ ฮัจญี อาหมัด บิน ฮัจญี อับดุลลอฮ์ ฟาฮิม หรือที่รู้จักกันในนาม อาห์หมัด บาดาวี และดาโต๊ะ คัยลัน บินตี ฮัจญี ฮัสซัน
.
ท่านมาจากตระกูลอุละมะห์ (นักศาสนา) ที่มีชื่อเสียงในรัฐปีนัง โดยเริ่มการศึกษาระดับประถมที่โรงเรียนแห่งชาติ Permatang Bertam, Kepala Batas (พ.ศ. 2490–2493) จนถึงระดับประถมปีที่ 4
.
จากนั้นศึกษาต่อที่โรงเรียนมัธยม Bukit Mertajam High School และโรงเรียน Penang Methodist Boys School รัฐปีนัง เพื่อเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
.
ในปี พ.ศ. 2500 ขณะเรียนอยู่ชั้นมัธยมปีที่ 5 ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานสมาคมนักเรียนมลายูรัฐปีนังและเซเบอรัง ปราย (PPMPPSP) ต่อมาท่านเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยมาลายา และมีบทบาทอย่างมากในประเด็นการศึกษาของคนมลายู
.
ในปี พ.ศ. 2505 ท่านได้รับการตำแหน่งประธานสมาพันธ์นักเรียนแห่งสหพันธรัฐมลายู (GPMS) และในปี พ.ศ. 2507 ท่านสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาศิลปศาสตร์ (Pengajian Islam) หรือการศึกษาศาสนาอิสลาม
.
ท่านแต่งงานกับ ท่านหญิง เอนดอน มะห์มุด (24 ธันวาคม พ.ศ. 2483 – 20 ตุลาคม พ.ศ. 2548) และต่อมากับท่านหญิง จีน อับดุลลอฮ์
.
หลังจากลาออกจากตำแหน่งข้าราชการในปี พ.ศ. 2521 ท่านลงสมัครรับเลือกตั้งและชนะเป็น ส.ส. เขตเคอปาลา บาตัส ในช่วงปี พ.ศ. 2530 พรรค UMNO ประสบวิกฤติภายในจากการแย่งชิงอำนาจระหว่าง ตุน มะห์เดร์ โมฮัมหมัด กับ ตึงกู ราซาเลห์ ฮัมซะห์
.
ซึ่ง ตุน อับดุลลอฮ์ ก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย โดยท่านเลือกข้าง ตึงกู ราซาเลห์ ทำให้ท่านไม่ได้รับตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีใหม่ของ ตุน มะห์เดร์ แต่ความจงรักภักดีต่ออุดมการณ์พรรค UMNO ของท่านยังมั่นคงไม่เคยเปลี่ยน
.
ตุน อับดุลลอฮ์ เข้าร่วมพรรค UMNO ในปี พ.ศ. 2507 และเริ่มมีบทบาทในทางการเมืองอย่างจริงจังเมื่อได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ เขตเคอปาลา บาตัส ในปี พ.ศ. 2521 และสามารถรักษาเก้าอี้นี้ได้เรื่อยมา จนถึงปี พ.ศ. 2556 โดยท่านเป็นหนึ่งในสมาชิกสภาสูงของพรรคอัมโนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2524
.
ท่านได้รับเลือกเป็นรองประธานพรรค UMNO ในปี พ.ศ. 2527, 2530, 2533 และได้รับเลือกอีกครั้งในปี พ.ศ. 2539 และในการประชุมใหญ่พรรค UMNO ในปี พ.ศ. 2543 ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นรองรองนายกรัฐมนตรี (วาระปี 2543–2546)
.
หลังเกษียณจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตุน อับดุลลอฮ์ ยังคงมีบทบาทในองค์กรสาธารณะ เช่น การดำรงตำแหน่งประธานสถาบันความเข้าใจศาสนาอิสลามแห่งมาเลเซีย (IKIM) ซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อให้ความรู้ด้านศาสนาอิสลามอย่างแท้จริง ปราศจากแนวคิดสุดโต่งหรือเบี่ยงเบน
.
ท่านยังเป็นผู้อุปถัมภ์ของสถาบันการศึกษาอิสลามชั้นสูง (IAIS) ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2552 เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสายศาสนาได้ศึกษาต่อในระดับสูง และเพื่อยกระดับความรู้ด้านศาสนาในประเทศ
.
ตุน อับดุลลอฮ์ ยังเป็นผู้อุปถัมภ์ก่อตั้งเวทีเศรษฐกิจอิสลามโลก (WIEF) ซึ่งริเริ่มโดยมาเลเซียเพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศมุสลิม
.
ท่านเคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐบาลในด้านการพัฒนาเขตเศรษฐกิจ (Corridor Development), ที่ปรึกษาสายการบิน (Malaysia Airlines) และระดับนานาชาติท่านเป็นสมาชิกองค์กร Interaction Council, เป็นคณะกรรมการ เวทีเอเชียโป๋อ๋าว (BOAO Forum for Asia – BFA)
.
เป็นประธานกลุ่มบุคคลสำคัญแห่งเครือจักรภพ (Commonwealth Eminent Persons Group) ระหว่างปี 2553–2554 และยังเป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้ง คณะมนตรีเพื่อสันติภาพและความปรองดองแห่งเอเชีย (Asian Peace and Reconciliation Council – APRC)
.
หนึ่งในผลงานสำคัญของท่าน คือ การเปิดโอกาสให้ผู้สำเร็จการศึกษาสายศาสนาและครูจากโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาทั่วประเทศมาเลเซีย ได้เข้ารับราชการเป็นข้าราชการประจำ มีสิทธิ์บำนาญ ผ่านโครงการ KPLI และ J-QAF ซึ่งส่งผลให้ครูหลายพันคนได้ชีวิตใหม่ในระบบราชการ หวังว่าผลงานนี้จะเป็นกุศลที่คงอยู่ตลอดไปแก่ท่าน
.
ท่านถึงแก่กรรมเมื่อเวลา 19.10 น. ที่สถาบันโรคหัวใจแห่งชาติ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของท่าน ประเทศชาติได้สูญเสียรัฐบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ และประชาชนได้สูญเสียบิดาผู้ขับเคลื่อนประเทศ ขออัลลอฮ์ทรงเมตตา และโปรดให้ท่านอยู่ในหมู่ผู้ศรัทธาในสวรรค์ของพระองค์