ไม่มีเวลาไหนเหมาะสมจนกว่าจะทำให้มันเหมาะสมไปกว่านี้

.

โดย : Mubarad Salaeh

สถานการณ์ทางการเมืองกำลังเดือดระอุในกรุงเทพ ทำให้อีกหลายจังหวัดลุกขึ้นเคียงข้างผู้ออกมาประท้วงในอุดมการณ์ความเชื่อเดียวกัน จากการกดทับของอำนาจรัฐประหารที่กระทำโดยกองทัพทหารไทยที่มีต่อประชาชน มันทำให้ถึงเวลาแล้วที่ประชาชนไม่ยินยอมถูกกดขี่อีกต่อไป ด้วย 10 ข้อ เสนอจากนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่ร่วมกันประกาศขึ้นบนเวทีอย่างกล้าหาญและตรงไปตรงมา

.

มันไม่มีเวลาไหนเหมาะสมจนกว่าจะทำให้มันเหมาะสมไปกว่านี้ เพราะด้วยสิ่งที่ล่วงผ่านมานั้น สังคมในบริบทของประเทศไทยได้ถูกตีกรอบสิทธิการแสดงออกซึ่งไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ปีมานี้ หากแต่ถูกบัญญัติไว้ในกฎหมายหมิ่นประมาทสถาบันพระมหากษัตริย์มาเนิ่นนาน

.

ดังนั้นการกล่าวถึงสถาบันฯ จึงเป็นสิ่งต้องห้ามของประชาชนในประเทศ แต่กลับกันในวันนี้ ผู้คน วัยหนุ่มสาว คุณพ่อคุณแม่ และปู่ยาตายายที่ยังมีชีวิต ได้มองเห็นถึงความสำคัญในสิทธิการแสดงออกมากขึ้นกว่าเดิม ด้วยต้องยอมรับว่าโซเชี่ยลมีเดียเป็นสื่อกระจายข่าวคราวออกมาได้อย่างเสรี มันจึงทำให้คนส่วนใหญ่ในประเทศไทยตื่นรู้ว่าอะไรคือสิทธิมนุษยชนที่ทุกคนควรได้รับ

.

กลับมาในวันนี้ปัญหาสถานการณ์บ้านเมืองในประเทศไทย จะเป็นอะไรอื่นไม่ได้แล้วนอกจากการออกมาพูดถึงปัญหาที่ถูกซ่อนไว้ใต้พรม โดยที่ไม่หยิบยกออกมาแสดงไว้ในพื้นที่สาธารณะอย่างเปิดเผย เพราะเชื่อว่าสิ่งที่กดทับปัญหาทางการเมืองในประเทศไทย ไม่ได้เป็นแค่การแย่งชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีปกครองประเทศเพียงอย่างเดียว หากแต่ยังมีอำนาจที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่อาจทำให้ไม่มีใครสุ่มเสี่ยงแสดงตนออกมากล่าวถึงปัญหาได้อย่างชัดเจน

.

เพราะเมื่อสิ่งที่ไม่เคยกล่าวถึงอย่างตรงไปตรงมา ทำให้ประเทศไทยจมอยู่กับวาทกรรมล้มเจ้าที่เป็นโซ่ตรวนเพื่อปกป้องอำนาจการปกครอง เพื่อกล่าวหาผู้ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามของรัฐบาลเป็นการก่อกบฏต่อราชอาณาจักร ซึ่งวาทกรรมนี้เป็นเรื่องอ่อนไหวของคนในประเทศ มันจึงเป็นความง่ายดายเพื่อโยนความผิดจนถูกตีตราว่าไม่รักชาติและสถาบัน

.

หลังจากการป่าวประกาศจุดยืนหยัดของเหล่านักศึกษาผู้กล้าหาญ ต้องยอมรับว่าเป็นความท้าทายอย่างมากเพื่อแสดงออกถึงการไม่ยอมรับและไม่เห็นด้วยในกฎหมายที่ถูกบัญญัติไว้ รวมไปถึงการรื้อสร้างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่อีกเช่นกัน

.

มันไม่มีเวลาไหนเหมาะสมจนกว่าจะทำให้มันเหมาะสมไปกว่านี้ เพราะคนไทยถูกกดทับด้วยเพดานให้จมลงไปพร้อมกับปิดกั้นการแสดงออกถึงจุดยืนและความคิดเห็น เกินกว่าจะยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นมาถึงปัจจุบัน แม้ในการออกมาประท้วงจะยังไม่เกิดขึ้นหรือเกิดขึ้นจริงแล้ว สิ่งที่ควรพูดออกไปเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปนั้น ล้วนขึ้นอยู่กับการแก้ปัญหาของคนในชาติมากกว่าแขวนสถาบันกษัตริย์ออกจากการวิพากษ์วิจารณ์ได้อย่างเสรี

.

หมายเหตุ :The Motive ทำหน้าที่เป็นพื้นที่ในการสื่อสารเสมือนหนึ่งเวที ซึ่งเนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียนอาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ